จัดฟัน

จัดฟัน

การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นสาขาหนึ่งในทางทันตกรรมที่ให้การวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาความผิดปกติของการเรียงฟัน การสบฟันรวมทั้งปัญหาความผิดปกติของขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรต่อใบหน้า

การจัดฟันเป็นการรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้นเพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ และลดอัตราเสี่ยงการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกที่มีสาเหตุมาจากการทำความสะอาดฟันและเหงือกไม่ทั่วถึงในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ ป้องกันการสึกของฟันที่ผิดปกติจากการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอาจช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพจากการที่มีฟันเรียงกันสวยงาม

การจัดฟันใส

หลักการทํางานของการจัดฟันใส  Clear Aligner ใช้หลักการคํานวณของซอฟต์แวร์ และ เทคโนโลยี AI เพื่อขึ้นรูปพลาสติก และใช้แรงจากพลาสติกดันเคลื่อนฟัน โดยในบางรายอาจมีปุ่มที่ทําจากวัสดุสีเหมือนฟันหรือที่เรียกว่า Attachment ติดบนตัวฟัน เพื่อช่วยให้การเคลื่อนฟัน เป็นไปตามทิศทางที่ได้ถูกออกแบบตามเฉพาะบุคคล ซึ่งจะต้องใส่เครื่องมือจัดฟันเป็นเวลา 20-22 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้อุปกรณ์จัดฟันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามแผนการรักษา

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการจัดฟันใส ทำให้มียี่ห้อจัดฟันใสให้เลือกมากมายในท้องตลาด แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติ ราคา และการบริการที่แตกต่างกันออกไป ที่ Esse Dental Clinic เรามีแบรนด์จัดฟันใสยอดนิยม ให้คุณได้เลือกกัน 3 แบรนด์ ดังนี้

  1. Invisalign
  2. Dr.Clear
  3. BeforeDent

วิธีเลือกยี่ห้อที่เหมาะกับตัวเอง

ทันตแพทย์ – ไม่ว่าจะเลือกจัดฟันใสยี่ห้ออะไร ทันตแพทย์จะเป็นคนที่เราต้องปรึกษาและพูดคุยตลอดการรักษาอย่างน้อยเป็นเวลา 6 เดือนหรือจนกว่าการรักษาจะเสร็จ ควรเลือกทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง และได้รับการอบรมเฉพาะในการจัดฟันใส สามารถชี้ให้เห็นผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากการรักษา เพราะในการจัดฟันใสจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือหลายอย่างที่มีลักษณะเฉพาะและต้องการความชำนาญในการทำการรักษา

ความยากง่ายของการจัดฟัน – หากมีฟันซ้อน ฟันเก เยอะหลายตำแหน่งหรือดูแล้วเป็นเคสที่ยาก ควรเลือกจัดฟันใสชนิดที่สามารถทำเคสยากได้ การจัดฟันใสแต่ละยี่ห้อแตกต่างกัน บางยี่ห้อสามารถจัดฟันได้เพียงเคสง่ายถึงปานกลางเท่านั้น ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อให้ทราบได้ว่าฟันของเราถ้าจะจัดด้วยยี่ห้อใด จะสามารถทำได้หรือไม่

ราคาขึ้นอยู่กับแบรนด์เป็นหลัก ถ้าเป็นแบรนด์ที่นิยมใช้และมีชื่อเสียง ราคาแพงเนื่องจากน่าเชื่อถือกว่า อยู่มานานกว่า บริษัทมีประสบการณ์กับเคสต่าง ๆ มากกว่า แต่ถ้าสภาพฟันของคนไข้เป็นเคสง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถเลือกแบรนด์ที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ราคาถูกกว่าได้ ขอเพียงสามารถจัดฟันได้ถูกต้องก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

การบริการหลังการจัดฟันสำคัญมาก เพราะจะต้องอยู่กับเราไปจนกระทั่งเราจัดฟันเสร็จ หากมีคำถาม ปัญหา หรือมีอุปกรณ์ชำรุดเสียหาย จำเป็นต้องดูว่ามีบริการอะไรหลังการขายบ้างเพื่อให้การจัดฟันของเราเป็นไปตามแผนการรักษา

สถานที่ตั้งและเวลาทำการ – ควรเลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ และมีเวลาทำการที่เหมาะสมกับตารางเวลาของเรา

ข้อดีข้อเสีย
ความใสแนบเนียนไปกับฟัน ทำให้ยิ้มหรือพูดคุยได้อย่างมั่นใจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบติดเครื่องมือ
ทำความสะอาดได้ง่าย เพราะการไม่มีเหล็กจัดฟันจะทำให้เศษอาหารติดน้อยลงคนไข้ต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟันใส
ประมาณ 20-22 ชั่วโมงต่อวัน
ลดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปากลงเพราะไม่ต้องทนกับเหล็กจัดฟันทิ่มปากด้วยความที่เครื่องมือมีลักษณะใส เเละต้องถอดออกก่อนการรับประทานอาหารหรือทำความสะอาดฟัน อาจทำให้คนไข้ทำหาย
ลดเวลาพบทันตแพทย์ลง เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา หรือเดินทางบ่อย
ทานอาหารได้สะดวก หลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่าเหล็กจะหลุดขณะทานอาหาร
กว่า 80% ของผู้รับบริการไม่ต้องถอนฟัน เนื่องจากการจัดฟันใสใช้ระบบการเคลื่อนฟันที่แตกต่างกับแบบลวด

ที่มา : คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย https://www.dent.chula.ac.th/

Invisalign

รายละเอียดจัดฟันใส

Dr.Clear

BeforeDent

การจัดฟันโลหะ

การจัดฟันโลหะคือ การจัดฟันแบบติดเครื่องมือลงไปที่ผิวหน้าของฟัน ทำงานร่วมกับลวดที่ช่วยในการเคลื่อนฟัน และมีแถบยางสี ๆ ขนาดเล็กจะยึดลวดไว้ ทันตแพทย์จะค่อย ๆ ขยับลวดเพื่อดึงฟันของคุณให้อยู่ในแนวเดียวกัน 

โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

แบร็กเก็ต (Brackets) เป็นชิ้นส่วนโลหะขนาดเล็กที่ติดลงบนผิวฟันด้านนอก ส่วนใหญ่มักจะผลิตจากสแตนเลส สตีล (Stainless Steel) มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นสนิม โดยแบร็กเก็ตจะมีร่องสำหรับยึดติดลวดอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านบนและด้านล่างจะเป็นปีกเล็ก ๆ ไว้สำหรับมัดยาง

ลวด (Archwires) ส่วนใหญ่ผลิตจาก นิกเกิล (Nickel) และไทเทเนียม (Titanium) ทำหน้าที่ร้อยแบร็กเก็ตเข้าไว้ด้วยกัน โดยลวดจะเป็นตัวที่สร้างแรงเคลื่อนฟัน ดึงให้ฟันให้เคลื่อนที่ไปยังจุดที่กำหนดไว้ตามแผนการรักษา

ตัวยึด (Ligatures) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ยาง” แต่ในความจริงแล้ววัดสุดที่ใช้เป็นตัวยึดนี้ มีทั้งแบบที่เป็น ยาง ลวด หรือ บานพับโลหะ ซึ่งทำหน้าที่ยึดลวดไว้กับแบร็กเก็ต โดยวัสดุทำตัวยึดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “ยาง” เพราะนอกจากจะให้การยึดหรือรัดที่แน่นหนาแล้ว ยังมีราคาไม่แพง สามารถเปลี่ยนสีสันได้บ่อยครั้ง

นอกจากส่วนประกอบหลักทั้ง 3 อย่างนี้แล้ว บางคนก็อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ยางดึงฟัน เชน หมุดจัดฟัน สปริง เพลท ไบท์เทอร์โบ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับปัญหาในช่องปากของแต่ละคน

ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ
เข้าปรึกษากับทันตแแพทย์ เพื่อดูรายละเอียดช่องปากเเละฟัน และเตรียมตัวสำหรับการวางแผน จัดฟันเหล็ก เเล้วจะมีขั้นตอนที่คลินิกดังนี้

  1. ทันตแพทย์ทำการถ่าย X-ray ฟัน และแสกนช่องปากเพื่อเก็บข้อมูลก่อนเริ่มการรักษา
  2. ทำการเคลียร์ช่องปาก แก้ปัญหาต่าง ๆ เตรียมสุขภาพในช่องปากให้พร้อมกับการจัดฟัน
  3. ทันตแแพทย์ทำการติดเครื่องมือจัดฟัน ตามแผนการรักษา
  4. คนไข้พบทันตแพทย์ เพื่อติดตามผลการจัดฟัน ปรับเครื่องมือเพื่อให้ฟันเคลื่อนตามแผนการ
  5. เมื่อจัดฟันได้เข้าที่ตามที่วางแผนเเล้ว ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟันให้กับคนไข้
  6. ทันแพทย์มอบรีเทนเนอร์ให้คนไข้ใส่ต่อหลังจัดฟันเสร็จ เพื่อป้องกันการล้มของฟัน

จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces)

คือรูปแบบการจัดฟันแบบเดียวกันกับการจัดฟันโลหะธรรมดา แตกต่างกันเพียงตรงวัสดุของเครื่องมือจัดฟันที่ติดผิวหน้าฟัน (Bracket) จะใช้วัสดุเซรามิกสีเหมือนฟัน และใช้ยางรัดลวดจัดฟันสีใส เพื่อเน้นในเรื่องของการพลางอุปกรณ์ทำให้สังเกตได้ยากว่าจัดฟันอยู่

นอกจากส่วนประกอบหลักทั้ง 3 อย่างนี้แล้ว บางคนก็อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ยางดึงฟัน เชน หมุดจัดฟัน สปริง เพลท ไบท์เทอร์โบ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับปัญหาในช่องปากของแต่ละคน

ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ
เข้าปรึกษากับทันตแแพทย์ เพื่อดูรายละเอียดช่องปากเเละฟัน และเตรียมตัวสำหรับการวางแผน จัดฟันเหล็ก เเล้วจะมีขั้นตอนที่คลินิกดังนี้

  1. ทันตแพทย์ทำการถ่าย X-ray ฟัน และแสกนช่องปากเพื่อเก็บข้อมูลก่อนเริ่มการรักษา
  2. ทำการเคลียร์ช่องปาก แก้ปัญหาต่าง ๆ เตรียมสุขภาพในช่องปากให้พร้อมกับการจัดฟัน
  3. ทันตแแพทย์ทำการติดเครื่องมือจัดฟัน ตามแผนการรักษา
  4. คนไข้พบทันตแพทย์ เพื่อติดตามผลการจัดฟัน ปรับเครื่องมือเพื่อให้ฟันเคลื่อนตามแผนการ
  5. เมื่อจัดฟันได้เข้าที่ตามที่วางแผนเเล้ว ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟันให้กับคนไข้
  6. ทันแพทย์มอบรีเทนเนอร์ให้คนไข้ใส่ต่อหลังจัดฟันเสร็จ เพื่อป้องกันการล้มของฟัน
ข้อดีข้อเสีย
การจัดฟันเซรามิก มีความใสใกล้เคียงกับสีฟันมากที่สุดค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟัน แต่ไม่อยากให้คนสังเกตเห็นแบบเด่นชัดตัววัสดุเปราะแตกหักง่ายกว่าเมื่อเทียบกับโลหะ
ติดเครื่องมือจัดฟันด้านนอกจึงทำให้การดูแลรักษาทำได้ง่าย
ไม่เกิดการระคายเคืองสำหรับผู้ที่แพ้เหล็กจัดฟันโลหะ
วัสดุจัดฟันคงทน ไม่หลุดง่าย น้ำหนักเบา
เศษอาหารติดฟันน้อยกว่าการจัดฟันแบบ โลหะ
ไม่มีอาการเสียวฟันรบกวน

หากต้องการจัดฟันใสที่มีความคล้ายกับสีฟันจนดูไม่ออกว่ากำลังจัดฟันอยู่นอกจาก จัดฟันเซรามิก แล้วยังมี จัดฟันแบบ invisalign ที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

จัดฟันแบบดามอน

การจัดฟันดามอน หรือ Damon System เป็นนวัตกรรมการจัดฟันสมัยใหม่ “ดามอน” เป็นชื่อยี่ห้อของเครื่องมือจัดฟันติดแน่นแบบไม่รัดยาง จุดเด่นของการจัดฟันดามอนอยู่ที่การทำงานของเครื่องมือจัดฟัน ลักษณะเฉพาะของแบล็คเก็ตแบบดามอน คือ self ligate bracket หรือลักษณะบานล๊อคเปิดและปิด แทนการใช้ยางที่เป็นแรงดึงและยึดติดกับลวดเหล็ก ซึ่งไม่มียางที่ใช้ยึด ทำให้เกิดคราบหินปูนได้น้อยลง ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น การจัดฟันแบบดาม่อนสามารถจัดฟันเคสที่ซับซ้อนได้ ลดความซับซ้อนในการมัดลวดจัดฟันด้วยยางจัดฟันที่เสื่อมสภาพง่าย หรือลวดมัดฟันที่มักทิ่มแทงเนื้อเยื่อรอบข้าง ลดแรงเสียดทาน สามารถบังคับการเคลื่อนตัวของฟันได้คล่องตัว ทำให้สามารถเคลื่อนตัวฟันไปตำแหน่งที่ต้องการได้เร็วกว่าการจัดฟันทั่วไป

การจัดฟันแบบดามอน มี 2 แบบ ดังต่อไปนี้

  • จัดฟันดามอน คิว (Damon Q) เป็นการใช้แบร็คเก็ตโลหะสีเงิน เมื่อติดเครื่องมือจัดฟันชนิดนี้บนฟัน เวลายิ้ม พูดคุย หัวเราะ จะเห็นเครื่องมือจัดฟันชัดเจน
  • จัดฟันดามอน เคลียร์ (Damon Clear) เป็นการใช้แบร็คเก็ตชนิดสีเหมือนเนื้อฟัน หรือสีใส ทำให้เมื่อติดลงบนฟันจะมองเห็นเครื่องมือไม่ชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบุคลิกภาพที่ดีระหว่างการจัดฟัน

จัดฟันแบบดามอนเหมาะกับใคร?

  • ผู้มีปัญหาฟันที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันบนหรือฟันล่างยื่น ฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันกัดคร่อม ฟันกัดเบี้ยว
  • ผู้มีปัญหาฟันและขากรรไกรแบบแคบ เพราะการจัดแบบดามอน ลวดที่รัดจะมีความยืดหยุ่นมากช่วยขยายฟันได้ดี
  • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ต้องการจัดฟันแต่กระดูกขากรรไกรยังยืดหยุ่นอยู่ ซึ่งการจัดฟันแบบดามอนจะสามารถขยายได้ทั้งฟันและกระดูก

Damon Q  

Damon Clear

การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

การสบฟันที่ผิดปกติอาจมีสาเหตุร่วมจากความผิดปกติของขากรรไกร เช่นตำแหน่งหรือขนาดของขากรรไกรบนและล่างไม่สัมพันธ์กัน หากพบความผิดปกติของขากรรไกรในวัยเด็ก อาจแก้ไขด้วยเครื่องมือที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ของขากรรไกรได้   ในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของขากรรไกรมากจะทำให้ฟันสบไม่เข้าที่และรูปหน้าดูไม่สมส่วน จะแก้ไขด้วยการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร การผ่าตัดมักจะทำเมื่อผู้ป่วยหยุดการเจริญเติบโตแล้ว โดยอาจผ่าตัดที่ขากรรไกรเดียว หรือทั้งสองขากรรไกร และอาจผ่าตัดเสริมที่คางได้ด้วย

ขั้นตอนในการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

เริ่มจากตรวจการสบฟัน พิมพ์ปาก และเอ็กซ์เรย์เหมือนการจัดฟันทั่วไป แต่เมื่อทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาทางทันตกรรมวินิจฉัยว่าความผิดปกติมีสาเหตุมาจาก

กระดูกขากรรไกร ทันตแพทย์จะแนะนำทางเลือกที่เป็นการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร หากผู้ป่วยสนใจแผนการรักษาร่วมกับการผ่าตัด ควรนัดปรึกษากับทันตแพทย์ผู้ที่จะทำการผ่าตัด (Oral and maxillofacial Surgeon) เพื่อวางแผนการรักษา ประเมินค่าใช้จ่าย ตลอดจนซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินในการเลือกแผนการรักษา

การรักษาด้วยการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรประกอบด้วย 3 ส่วนดังนี้คือ

  1. การจัดฟันก่อนการผ่าตัด (Presurgical Orthodontics) มักใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ปี และอาจต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย หากฟันซ้อนเกมาก การจัดฟันก่อนผ่าตัดจะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นเคลื่อนฟันในแต่ละขากรรไกรไปในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับขากรรไกรนั้น ๆ เนื่องจากการสบฟันที่ผิดปกตินั้น ฟันจะล้มเอนตามธรรมชาติไปในแนวที่ปิดบังความผิดปกติของขากรรไกร ดังนั้นการแก้การล้มเอนตามธรรมชาติและจัดเรียงฟันให้ได้ตำแหน่งที่ถูกต้องบน แต่ละขากรรไกรก่อนการผ่าตัด มักจะทำให้การสบฟันก่อนผ่าตัดรวมทั้งใบหน้าดูแย่ลงชั่วคราว
  2. การผ่าตัด (Orthognathic Surgery) ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากและเอ็กซ์เรย์อีกครั้งเพื่อจำลองการผ่าตัดในแบบฟันและ เตรียมทำเฝือกสบฟันสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนและหลังการผ่าตัดจากทันตแพทย์ผู้ ทำการผ่าตัด การผ่าตัดจะทำในโรงพยาบาล และผู้ป่วยมักจะต้องพักฟื้น 1-3 วันในโรงพยาบาล และพักต่อที่บ้านอีกประมาณ 2-4 สัปดาห์แล้วแต่ทันตแพทย์แนะนำ
  3. การจัดฟันหลังการผ่าตัด (Postsurgical Orthodontics)
    เป็นการจัดฟันในรายละเอียดเพื่อให้การสบฟันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมากจะใช้หนังยางดึงฟันร่วมด้วย และมักจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

ในบางกรณีในบางเคสอาจทำการผ่าตัดประเภท surgery first  ได้ ขึ้นกับดุลยพินิจของทีมแพทย์  และความยากง่ายของเคส